ถ้าพูดถึงสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในประเทศไทย จังหวัดพังงาอาจจะไม่ใช่ชื่อแรกที่หลายคนนึกถึง แต่สำหรับนักเดินทางที่หลงใหลในความงดงามของถ้ำใต้ภูเขา “ถ้ำพุงช้าง” คือลายแทงขุมทรัพย์ธรรมชาติที่ไม่ควรมองข้าม ถ้ำแห่งนี้ซ่อนตัวอยู่ภายใต้ภูเขาใหญ่กลางเมืองพังงา เป็นสถานที่ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ ลึกลับ และเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ
ถ้ำพุงช้าง คืออะไร?
ถ้ำพุงช้าง (Tham Phung Chang) เป็นถ้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใต้เขาพังงากลางตัวเมืองพังงา ชื่อของถ้ำมาจากลักษณะของภูเขาที่มีรูปร่างคล้ายช้าง และมีลักษณะของพุงที่ใหญ่กลมดั่งท้องช้าง จึงถูกเรียกว่า “ถ้ำพุงช้าง” ถ้ำแห่งนี้ถูกขึ้นทะเบียนเป็นเขตอนุรักษ์ และบริหารจัดการโดยวัดประจำพื้นที่ร่วมกับชุมชนท้องถิ่น เพื่ออนุรักษ์ระบบนิเวศและความงามตามธรรมชาติของถ้ำ
จุดเด่นของถ้ำพุงช้าง
-
ถ้ำหินปูนธรรมชาติ ที่มีอายุหลายล้านปี ภายในมีหินงอกหินย้อยที่ยังคงก่อตัวอย่างต่อเนื่อง
-
การผจญภัยสามรูปแบบ ได้แก่ การเดินเท้า การพายเรือแคนู และการนั่งแพไม้ไผ่ ซึ่งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวภายในถ้ำที่ไม่เหมือนใคร
-
บรรยากาศเงียบสงบและเย็นสบาย ภายในถ้ำอุณหภูมิคงที่ตลอดทั้งปี เป็นที่พักใจจากความวุ่นวาย
-
ไฮไลต์คือการได้สัมผัสความงามของถ้ำอย่างใกล้ชิด ภายใต้แสงจากไฟฉายเท่านั้น ซึ่งช่วยเพิ่มความตื่นเต้นและลึกลับ
ประสบการณ์ท่องเที่ยวภายในถ้ำ
นักท่องเที่ยวที่มาเยือนถ้ำพุงช้างจะได้สัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างจากถ้ำอื่น ๆ โดยมีไกด์ท้องถิ่นที่ได้รับการอบรมอย่างดีเป็นผู้นำทางตลอดเส้นทาง ใช้เวลาทั้งหมดประมาณ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมง
3 รูปแบบของการเดินทางภายในถ้ำได้แก่:
-
เดินเท้า ช่วงแรกจะเริ่มจากปากถ้ำ โดยเดินบนเส้นทางหินปูนผ่านหินงอกหินย้อย
-
พายเรือแคนู ช่วงกลางของถ้ำจะต้องพายเรือผ่านลำธารใต้ภูเขา
-
นั่งแพไม้ไผ่ ช่วงท้ายของถ้ำจะพานักท่องเที่ยวลอยผ่านลำน้ำแคบๆ โดยใช้แพไม้ไผ่แบบโบราณ
ถ้ำพุงช้าง กับระบบนิเวศที่อุดมสมบูรณ์
ภายในถ้ำมีสัตว์นานาชนิดอาศัยอยู่ เช่น ค้างคาว ปลาใต้ดิน และแมลงหายาก ระบบนิเวศในถ้ำได้รับการดูแลเป็นอย่างดี โดยไม่อนุญาตให้นักท่องเที่ยวสัมผัสสิ่งมีชีวิตหรือหินงอกหินย้อยโดยตรง เพื่อรักษาสภาพธรรมชาติเอาไว้ให้นานที่สุด
ข้อมูลด้านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
ถ้ำพุงช้างมีความเกี่ยวข้องกับชุมชนและวัดในพื้นที่มานานนับร้อยปี ชาวบ้านเชื่อว่าถ้ำนี้เป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ เคยเป็นที่อยู่อาศัยของพระธุดงค์ในอดีต และยังพบร่องรอยของเครื่องมือเครื่องใช้โบราณบางส่วน ซึ่งมีการจัดแสดงอยู่ในศูนย์ข้อมูลใกล้ๆ ถ้ำ
การเดินทางมาถ้ำพุงช้าง
ที่ตั้ง: วัดประจำถ้ำพุงช้าง อำเภอเมือง จังหวัดพังงา
การเดินทาง:
-
จากตัวเมืองพังงา ขับรถเพียง 5 นาที
-
จากภูเก็ต ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง 15 นาที
-
จากเขาหลักหรือกระบี่ ใช้เวลาประมาณ 1–1.5 ชั่วโมง
เวลาทำการ: 08:00 – 16:30 น.
ค่าบริการ:
– คนไทยประมาณ 200 บาทต่อคน
– ชาวต่างชาติประมาณ 500 บาทต่อคน (รวมค่าไกด์และอุปกรณ์)
เหตุผลที่ควรมาถ้ำพุงช้าง
-
ไม่ต้องปีนเขา เดินทางสะดวก
-
ผจญภัยแบบครบสูตรในถ้ำเดียว
-
ได้ใกล้ชิดธรรมชาติอย่างแท้จริง
-
เหมาะกับทุกวัย ทั้งครอบครัว คู่รัก และสายถ่ายภาพ
-
ใกล้จุดท่องเที่ยวอื่น ๆ ในเมืองพังงา เช่น อนุสาวรีย์พระยาดำรงฯ และวัดสุวรรณคูหา
เคล็ดลับสำหรับผู้มาเยือน
-
สวมรองเท้าลุยน้ำหรือกันลื่น
-
ไม่ควรใส่เสื้อผ้าราคาแพง เพราะอาจเปียก
-
พกเสื้อผ้าสำรองและผ้าขนหนู
-
งดใช้แฟลชถ่ายภาพบริเวณที่ห้ามถ่าย
ถ้ำพุงช้างกับการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
การท่องเที่ยวถ้ำพุงช้างเป็นตัวอย่างของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่แท้จริง รายได้ส่วนหนึ่งจากค่าบริการจะถูกนำไปใช้ในการอนุรักษ์ถ้ำ ดูแลระบบนิเวศ และสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น ทำให้ที่นี่กลายเป็นต้นแบบของแหล่งท่องเที่ยวที่มีความรับผิดชอบ
เส้นทางท่องเที่ยวอื่นใกล้ถ้ำพุงช้าง
หากคุณมีเวลามากพอ สามารถต่อทริปไปยังสถานที่ใกล้เคียงได้ เช่น:
-
วัดสุวรรณคูหา หรือ “วัดถ้ำ”
-
สะพานแขวนเขาเทพพิทักษ์
-
จุดชมวิวเสม็ดนางชี (ใช้เวลาขับรถราว 1 ชั่วโมง)
คำแนะนำสำหรับการวางแผนเที่ยว
-
ถ้าอยากหลีกเลี่ยงนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ควรมาเที่ยววันธรรมดา
-
สำรองทัวร์ล่วงหน้าในช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์หรือเทศกาล
-
สามารถจัดทริปแบบวันเดียวจบได้ง่าย ๆ โดยเริ่มจากถ้ำพุงช้างในช่วงเช้า แล้วต่อไปยังวัดถ้ำและร้านอาหารท้องถิ่นในช่วงบ่าย